วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เรียน "นิติ ธรรมศาสตร์" อย่างคนมีกึ๋น

ตอนนี้กำลังเรียนคณะอะไร สาขาอะไรอยู่?
นิติศาสตร์ ในชั้นปริญญาตรีที่มี มธ ไม่มีสาขาเป็นที่แน่นอนครับ โดยคณะจะกำหนดสาขาขึ้นมา และให้เราเลือกวิชาเลือกให้ครบตามที่คณะกำหนดก็จะได้สาขานั้นครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกวิชาเลือกเอง แต่การเลือกสาขาในชั้นปริญญาตรีไม่มีผลอะไรมาก เพราะไม่ว่าเรียนสาขาไหนก็จะได้เรียนวิชาพื้นฐานทางนิติศาสตร์เหมือนกันหมด ความถนัดเฉพาะทางค่อยไปเน้นตอนปริญญาโทครับ
แต่ว่า มีคนชอบแซวว่าผมเรียนสาขากฎหมายอาชญากรสงคราม ^ ^' เนื่องจากมีอาจารย์พ่อเป็นคนญี่ปุ่นกับเยอรมัน

สาขาที่เรียน เรียนอย่างไร เรียนอะไรบ้าง
เนื่องจากผมไม่มีสาขาเป็นพิเศษเลยข้อพูดในภาพรวมนะกั๊บ

วิชาพื้นฐาน
- ตอนเข้าปีหนึ่งทุกคนที่เข้ามาในธรรมศาสตร์จะต้องเรียนวิชาพิ้นฐานก่อน ซึ่งโดยส่วนมากจะเน้นหนักที่ปรัชญาและประวัติศาสตร์ มีภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คอม กับวิทย์กายภาพด้วย แต่ผมไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษเพราะคะแนนสอบตรงเกินเกณฑ์ต้องเรียน แต่ว่าการที่ไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษอาจจะไม่ใช่ข้อดีเสมอไป เพราะจะกลายเป็นชนกลุ่มน้อยทันทีครับ เหงา..

วิชาบังคับของคณะ
- คือเรียนวิชาทุกอย่างที่จำเป็นกับการเป็นนักกฎหมายในอนาคต ทั้งสายมหาชน สายอาญา สายแพ่งและพานิช ประมวลเรียนน้านนานที่สุดคือแพ่ง เพราต้องเรียน สัญญาชนิดต่างๆ กฎหมายครอบครัว กฎหมายมรดก สายมหาชนก็เรียนกฎหมายปกครอง รัฐธรรมนูญ

ที่ธรรมศาสตร์จะไม่ใช้การสอนแบบเนติบัณฑิต ที่ธรรมศาสตร์จะสอนหลักทฤษฎีก่อน เพื่อให้แน่น แต่ที่เนติบัณฑิตซึ่งเป็นเลเวลต่อไปจะเน้นฎีกาและคำพิพากษาซึ่งเป็นภาคปฎิ บัติ การวัดผลไม่มีการสอบเก็บคะแนน หรือมิดเทอมใดๆ ทั้งสิ้น สอบไฟนอล 5 ข้อ 100 คะแนนข้อเขียนทุกวิชา ไม่มีการตัดเกรดแบบ A-F แต่ตัดเกรดเป็นคะแนนดิบ ได้ต่ำกว่า 60 ลงซ่อมใหม่สถานเดียวไม่มีข้อยกเว้น  จะแปลงเป็นเกรดเวลาเอาไว้เรียนต่อก็อิงเกณฑ์ ไม่อิงกลุ่ม(คือ ถ้าได้ 85 คะแนนเป็นต้นไปจะได้ A)
ถามว่าเป็นวิธีวัดเกรดที่โหดและเสียเปรียบหรือ เปล่า? คำตอบคือ โหดมาก และเสียเปรียบมาก แต่ว่าถ้ามองในแง่ของการรักษาคุณภาพและความเร้าใจ วิธีนี้ดีที่สุดแล้วครับ

วิชาเลือก
- จะไปท่องนอกคณะหรือในคณะก็ได้ ส่วนมากผมเลือกเรียนวิชานอกคณะเพราะอยากรู้อะไรหลายๆ อย่างครับ อย่างเช่น ประวัติศาสตร์ศิลปะ ปรัชญาการเมือง ส่วนวิชาในคณะก็ขึ้นอยู่กับความสนใจ ส่วนมากจะเป็นวิชาเฉพาะทางทางกฎหมาย อย่างเช่น นิติเวช (ถ้าเป็นภาคซัมเมอร์สอนโดยคณาจารย์ภาควิชานิติเวช ศิริราชพยาบาล :D) กฎหมายองค์กรระหว่างประเทศ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายญี่ปุ่น

วิชาอึด AKA วิชาไม่ได้เลือกแต่เรียนเพราะเกรงใจอาจารย์
- ที่คณะนิติที่ธรรมศาสตร์จะมีสอนภาษาญี่ปุ่นในสไตล์นักนิติศาสตร์โดยอาจารย์ ชิโอริ ทามุระ (ผู้ชายครับ..) อ. ญี่ปุ่นที่คณะ สำหรับนักศึกษาที่เรียนสายศิลป์ญี่ปุ่นมาก่อน โดยจะแทรกศัพท์กฎหมายลงไปตอนเรียนด้วย เรียนฟรี คณะออกเงินให้ แต่เนื่องจากไม่มีการเก็บเป็นหน่วยกิจ และอาจารย์ที่พูดเร็วมากก คนอึดเรียนจึงน้อย แต่ถ้าเข้ามาก็เรียนเถอะนะ.. โซขอ..

นอกจากภาษา ญี่ปุ่น ที่คณะจัดภาษาเยอรมันให้อีกนะครับ แต่เนื่องจากเจ้าของบล็อกเรียนญี่ปุ่นไปเลย จึงโดนประกาศิตว่า "อย่าเรียนเลย" จากอาจารย์ครับ -[]-

สาขาที่เรียนเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง

- เยอะมาก ทั้งแต่รัฐบรุษยันทรราช (อุ๊ย..) นายก นักการเมือง อบต ผู้มีอิทธิพล ผู้พิพากษา ทนายความ นักการตลาด ผู้ว่าราชการ ผู้ว่ารถไฟใต้ดิน คนดูและลิขสิทธิ์ให้วอลท์ดิสนีย์ อาจารย์คนนึงในคณะเคยพูดว่านิติศาสตร์เป็นวิชาเล่นแล่แปรธาตุจะให้ดีก็ได้ เลวก็ได้ จะให้กฎหมายเป็นนักบุญช่วยคนหรือฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ก็ยังได้ ดูอย่างศิษย์เก่าที่เป็นนายกที่ก็มีคาแรคเตอร์ ผสมปนเปไปทั้งสัญญา ธรรมศักดิ์, สมัคร สุนทรเวช, สมชาย วงศ์สวัสดิ์, ชวน หลีกภัย (ไม่ต้องอธิบายต่อแล้วใช่มิ? - -')

สำหรับผมคนเรียนนิติศาสตร์ เหมือนเป็นเจไดครับ จะเข้าดาร์คไซด์หรือเป็นคนดีก็แล้วแต่จะเลือก แต่ว่าให้ทำใจไว้เลยว่า เรียนคณะนี้ในอนาคตมีโอกาสกลับมาฟาดฟันกับเพื่อนร่วมรุ่นร่วมคณะสูงมากครับ


เท่าที่คิดตอนนี้ งานที่ผมจะไม่ทำแน่ๆ คือผู้พิพากษาหรืองานราชการครับ.. ไม่ถูกกับระบบราชการจริงๆ ง่ะ

บอกเคล็ดลับการเรียนในสาขานี้อย่างคนมีกึ๋นมา 1 ข้อ
- อ่านเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก อย่าหักโหม
เรียน คณะนี้และมหาลัยนี้การแข่งขันสูงมาก แต่คนที่ชิวสุดๆ ก็มี เดินทางสายกลางดีกว่า ไปมีชีวิตอย่างวัยรุ่น ออกไปท่องเที่ยวก่อนที่จะสาย อ่านหนังสือไม่ต้องอ่านแต่กฎหมายอย่างเดียวก็ได้ อ่านเยอะๆ นิยาย เรื่องสั้น ฟิควาย อ่านไปเหอะ เพราะกฎหมายมันปรากฎในทุกที่จริงๆ บางทีความรู้ที่เอามาตอบข้อสอบไม่ได้มาจากแค่ประมวลนะจ๊ะ


อยากบอกน้องๆ ที่จะเลือกคณะนี้ว่า??
- อย่าเลือกคณะนี้เพราะพ่อแม่บอกให้เลือก ต้องขู่ไว้ก่อน โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองที่ชอบบังคับลูกให้เรียนนิติทั้งๆ ที่ลูกไม่ชอบ เพราะถ้าไม่มีแม้แต่แรงบันดาลใจแค่เศษเสี้ยว "ทน" เรียนคณะนี้ไม่ได้ครับ จริงๆ นะ = =
- อย่าเลือกคณะนี้เพราะอยากดู Oasis เหมือนเจ้าของบล็อก -[]-
- คณะนี้ในมหาวิทยาลัยต้องมีใจรักจริงๆ ไม่ได้เรียนง่ายๆ ยิ่งเรียนยิ่งรู้สึกว่าชีวิตมีแต่ตรรกะและความเครียด บางทีก็ผิดหวังเพราะกฎหมายบางอย่างโดยเฉพาะรัฐธรรมนูญมีแต่ในทางทฤษฎี เวิ้นเว้อไปเรื่อยๆ เอาความสุขความสดใสของชีวิตไปเยอะมาก

หลาย ครั้งหลายหนที่อยากเลิกเรียน ไม่เอาแล้ว ไม่เรียนต่อแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นานก็คิดอย่างนั้น แต่ว่าพอเรียนไป ได้กำลังใจดีๆ มาจาก (**เซนเซอร์**) เรียนๆ ไปก็ตกหลุมรักกับการใช้ตรรกะไปแล้วล่ะ สรุปคือเรียนคณะนี้ต้องอึดและมีใจรักจริงๆ

สำหรับน้องๆ หลายคนที่หวั่นไหวกับการเรียนรังสิต ขอบอกว่าอย่างหวั่นไหว จิตวิญญาณธรรมศาสตร์อยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องอาศัยสนามบอลหรือตึกโดมที่ท่าพระจันทร์ ชีวิตที่รังสิตชิวจริงแต่ในแง่หนึ่งก็เป็นการฝึกความรับผิดชอบของตัวเองใน ตัว นิติไม่มีเช็คชื่อ ใส่ไปรเวทเรียนได้ อาจารย์ไม่แคร์ (แต่ไม่ได้ความว่าไม่สนใจนะครับ)เพราะฉะนั้นความรับผิดชอบต่อตัวเองสำคัญ มากๆ ชีวิตที่รังสิตก็มีความสุขดีด้วยครับ เหมือนเมืองมหาลัย ปั่นจักรยานรอบมหาลัย ตลาดนัดของกินอร่อย ว่างๆ ก็ขึ้นรถเมล์ไปดูหนังที่ฟิวเจอร์ เป็นชีวิตที่อิสระและมีความสุขจริงๆ ครับ

ป. ล. วันนี้ไปรับข้อสอบ take home วิชาเลือกศัพท์กฎหมายเยอรมันให้เขียน essay 10 หน้าให้มี   6 topic เกี่ยวกับการเปรียบเทียบรัฐธรรมนูญของสหพันธรัฐเยอรมันนีกับรัฐธรรมนูญราช อาณาจักรไทย

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หากเรียนกับอาจารย์ต่างชาติไฟแรงและคนน้อยๆ อย่าไปโชว์พาวให้มากนัก..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น