วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559

คำสุดท้ายที่อยากพูด

ผมได้เขียนเกี่ยวกับคำที่ไม่อยากพูดคือคำว่า “เสียดาย” ซึ่งหมายถึงการพลาดโอกาสทองของชีวิต และยิ่งเสียดายมากขึ้นเมื่อเห็นผู้อื่นรับโอกาสนั้นไป ผมขอถือโอกาสนี้ให้กำลังใจผู้อ่าน ถึงแม้ว่าเราจะได้สูญเสียโอกาสไปแล้ว อย่านั่งจับเจ่าเศร้าเสียใจจงมุ่งสร้างโอกาสใหม่ให้กับตัวเรา เพราะตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ เรายังมีอีกหลายโอกาสที่คอยเราอยู่ การกระทำเช่นนี้จะไม่ทำให้ต้องพูดคำว่าเสียดายชีวิต ช่วงหายใจครั้งสุดท้าย 

คำที่ทุกคนควรพูดอย่างยิ่งคือคำว่า “สำเร็จแล้ว” ทั้งองค์พระเยซูคริสต์และสาวกของพระองค์พูดคำว่า “สำเร็จแล้ว” เมื่อเดินมาถึงสุดปลายชีวิตอาจารย์เปาโลพูดถึงตนเองขณะที่เดินทางถึงสุดท้ายของชีวิตว่า “...และถึงเวลาที่ข้าพเจ้าจะจากไป ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างเข้มแข็ง ข้าพเจ้าได้วิ่งแข่งจนถึงเส้นชัย ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว” “เมื่อทรงรับน้ำนั้นแล้วพระเยซูก็ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” 

เป็นที่น่าเสียดายที่มีคนเป็นจำนวนไม่มากตระหนักในความจริงข้อนี้ ส่วนใหญ่เราจะปล่อยให้ชีวิตเป็นเหมือนลูกมะพร้าวที่ลอยไปตามน้ำแล้วแต่กระแสจะพัดพาไปไหน 

เราจะต้องค้นหาตนเองให้พบว่ามีความฝัน มีเป้าหมายในชีวิตในเรื่องอะไร ถ้าเราไม่สนใจ ไม่มีจุดรวมความสนใจมุ่งไปในทางใด เราก็จะไหลไปตามคำชักชวนและอิทธิพลรอบข้าง เฉพาะอย่างยิ่งเด็กวัยรุ่นที่มีแนวโน้มพฤติกรรมลอกเลียนแบบ เขาไม่อาจพบตัวตนที่แท้จริงเขาจึงไม่จุใจกับชีวิต นักศึกษาหลายคนตัดสินใจเลือกเรียนสาขาวิชาไม่ใช่ตามความถนัด ไม่ใช่วิชาที่ตรงกับใจ แต่เลือกเรียนสาขานี้เพียงเพราะอยากตามเพื่อน 

ก่อนที่คนนั้นจะพูดคำว่า “สำเร็จแล้ว” ได้ เขาจะต้องรู้ว่าความสำเร็จที่เขาต้องการคืออะไร มีคนไม่น้อยที่ดูเหมือนว่ามีความเก่งครอบจักรวาลแต่เป็นคนจับจดไม่เคยจะทำอะไรจริงจังสักเรื่องเดียว แต่ละอย่างที่ทำจะละไว้ครึ่งๆ กลางๆ 

แต่ดูเหมือนว่าคนมากมายตีกรอบความสำเร็จในเชิงรูปธรรม เชิงธุรกิจ คือเห็นผลกำไรที่ลงทุนไปคุ้มค่าและสามารถวัดปริมาณได้ เราคงไม่ปฏิเสธว่านั่นอาจเป็นรูปหนึ่งของความสำเร็จ แต่ความสำเร็จไม่จำเป็นต้องเป็นรูปนั้นเสมอไป 

ผมได้ยกความสำเร็จของพระเยซูคริสต์และอัครทูตเปาโลผู้ประกาศว่าตนเองทำสำเร็จแล้วมาเป็นแบบอย่าง ความสำเร็จบางคนอาจเป็นนักวิชาการ นักแต่งเพลง นักวิจัย นักบุญ นักวิทยาศาสตร์ ฯลฯ บุคคลเหล่านี้ภูมิใจในความสำเร็จที่ได้ทำในสิ่งที่ตนรักแม้ว่าเขาอาจเป็นบุคคลอยู่เบื้องหลังที่ไม่ค่อยจะมีคนรู้จัก มันเป็นความสำเร็จที่ช่วยและนำประโยชน์มาสู่มวลชน 

ผมประทับใจชายคนหนึ่งที่สื่อมวลชนนำมาเผยแพร่ เขาใช้เวลานับเป็นสิบไปปลูกต้นไม้ หลายคนคิดว่าเขาเสียสติ แต่เขารู้ว่าเขาทำอะไร และเขาภูมิใจที่ได้ทำในสิ่งที่เข้ารู้สึกว่ามีคุณค่าต่อสังคม เมื่อเขามองดูต้นไม้ที่เขาปลูกขณะนี้เติบโตเป็นร่มให้คนนั่ง ให้ความสุขชุ่มชื่นช่วยให้ฝนตก ผู้นี้สามารถพูดได้เต็มปากในปลายชีวิตว่า “สำเร็จแล้ว” 

คุณผู้อ่านคุณกำลังทำอะไร ถนนสายนี้ที่เดินอยู่จะช่วยให้สามารถพูดได้ในวาระสุดท้ายว่า “สำเร็จแล้ว” หรือไม่ ขอคิดดู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น