Question tag หรือ tag question คือประโยคคำถามรูปแบบหนึ่งซึ่งใช้ในภาษา
พูดเท่านั้น
พูดเท่านั้น
Question tag แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. Question tag ประเภทคำถามบอกเล่า เช่น
–You love her, don’t you?
ประโยคนี้เป็น question tag ประเภท ‘คำถามบอกเล่า’ โดยมีส่วนหัวซึ่งเป็น
ส่วนสำคัญที่สุด(ส่วนหลัก)อยู่ในรูปบอกเล่า คือ You love her, และมีส่วนหางซึ่งเป็น
ส่วนแสดงความเป็นประโยคคำถาม(ส่วนคำถาม)อยู่ในรูปปฏิเสธ คือ don’t you?
ส่วนสำคัญที่สุด(ส่วนหลัก)อยู่ในรูปบอกเล่า คือ You love her, และมีส่วนหางซึ่งเป็น
ส่วนแสดงความเป็นประโยคคำถาม(ส่วนคำถาม)อยู่ในรูปปฏิเสธ คือ don’t you?
2. Question tag ประเภทคำถามปฏิเสธ เช่น
–You don’t love her, do you?
ประโยคนี้เป็น question tag ประเภท ‘คำถามปฏิเสธ’ โดยมีส่วนหัวหรือส่วน
หลักอยู่ในรูปปฏิเสธ คือ You don’t love her, และมีส่วนหางหรือส่วนคำถามอยู่ในรูป
บอกเล่า คือ do you?
หลักอยู่ในรูปปฏิเสธ คือ You don’t love her, และมีส่วนหางหรือส่วนคำถามอยู่ในรูป
บอกเล่า คือ do you?
1. รูปแบบต่างๆของ question tag ประเภทคำถามบอกเล่า
ขอให้ท่านผู้อ่านศึกษารูปแบบของประโยค question tag ประเภทคำถามบอกเล่าต่อไปนี้ให้เข้าใจ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างประโยค question tag ของตนเอง
ต่อไป
ต่อไป
–It was a delicious meal, wasn’t it?
–That is your picture, isn’t it?
–There is an internet café around here, isn’t there?
–He is a star, isn’t he?
–She works at a hospital, doesn’t she?
–You’re having a party, aren’t you?
–Tom can do that, can’t he?
–You’ve lived here, haven’t you?
อนึ่ง am not ไม่มีการใช้ในรูปของคำย่อ นักภาษาศาสตร์จึงกำหนดให้ใช้ aren't
แทน ดังนี้
–I am your friend, aren’t I?
อนึ่ง am not ไม่มีการใช้ในรูปของคำย่อ นักภาษาศาสตร์จึงกำหนดให้ใช้ aren't
แทน ดังนี้
–I am your friend, aren’t I?
เราใช้ question tag ประเภทคำถามบอกเล่าในกรณีที่เราคิดว่าสิ่งที่เรากำลัง
พูดเป็นจริง เช่น
พูดเป็นจริง เช่น
–She works at a hospital, doesn’t she?
เจ้าหล่อนทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง...มิใช่รึ?
เจ้าหล่อนทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง...มิใช่รึ?
ประโยคนี้แสดงว่า ผู้พูดคิดว่า She works at a hospital. เป็นจริง
2. รูปแบบต่างๆของ question tag ประเภทคำถามปฏิเสธ
ขอให้ท่านผู้อ่านศึกษารูปแบบของประโยค question tag ประเภทคำถามปฏิเสธต่อไปนี้ให้เข้าใจ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างประโยค question tag ของตนเองต่อไป
–It wasn’t good, was it?
–That isn’t her boyfriend, is it?
–There isn’t a bank around here, is there?
–She isn’t his secretary, is she?
–Your brother didn’t go there, did he?
–Now I’m not just a boy, am I?
–Sally couldn’t come, could she?
–He hasn’t visited you, has he?
–They aren’t preparing the hall for the meeting, are they?
เราใช้ question tag ประเภทคำถามปฏิเสธในกรณีที่เราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่
เราพูดเป็นจริง เช่น
เราพูดเป็นจริง เช่น
–He hasn’t visited you, has he?
เขาไม่ได้มาเยี่ยมเธอ...ใช่ไหม?
เขาไม่ได้มาเยี่ยมเธอ...ใช่ไหม?
ประโยค question tag นี้ แสดงว่าผู้พูดไม่แน่ใจว่า he มาเยี่ยม you หรือไม่
การใช้ Yes และ No ตอบประโยค question tag
1. การใช้ Yes และ No ตอบประโยค question tag ที่เป็นคำถาม
บอกเล่า
บอกเล่า
1.1 ‘ถาม Yes’ ตอบ ‘Yes’ เท่ากับการ ‘ยืนยัน’
ดังกล่าวแล้วว่า question tag ที่เป็นคำถามบอกเล่า คือ question tag ที่ผู้ถามคิด
ว่าสิ่งที่ตนถามนั้นเป็นจริง จึงคาดหวังให้ผู้ตอบตอบว่า ‘Yes’ อันเป็นที่มาของเรียกแบบย่อๆ
ว่า ‘ถาม Yes’
เมื่อเป็นดังนี้ การตอบว่า ‘Yes’ จึงเป็นการ ‘ยืนยัน’ ว่า ‘เป็นจริงตามที่ถามมานั้น’ เช่น
A: You’ve lived here, haven’t you?
คุณพำนักอาศัยอยู่ที่นี่...มิใช่รึ?
B: Yes, I have.
ใช่...ผมพำนักอาศัยอยู่ที่นี่
ดังกล่าวแล้วว่า question tag ที่เป็นคำถามบอกเล่า คือ question tag ที่ผู้ถามคิด
ว่าสิ่งที่ตนถามนั้นเป็นจริง จึงคาดหวังให้ผู้ตอบตอบว่า ‘Yes’ อันเป็นที่มาของเรียกแบบย่อๆ
ว่า ‘ถาม Yes’
เมื่อเป็นดังนี้ การตอบว่า ‘Yes’ จึงเป็นการ ‘ยืนยัน’ ว่า ‘เป็นจริงตามที่ถามมานั้น’ เช่น
A: You’ve lived here, haven’t you?
คุณพำนักอาศัยอยู่ที่นี่...มิใช่รึ?
B: Yes, I have.
ใช่...ผมพำนักอาศัยอยู่ที่นี่
ประโยค Yes, I have. ของ B เป็นการ ‘ยืนยัน’ ว่า คำถามของ A คือ You’ve lived here, haven’t you? เป็นจริง
การใช้นี้จึงมี ‘สูตร’ ว่า:
ถาม ‘Yes’ ตอบ ‘Yes’ เท่ากับเป็นการ ‘ยืนยัน’ ว่า ‘Yes’ เป็นจริง
1.2 ‘ถาม Yes’ ตอบ ‘No’ เท่ากับการ ‘ปฏิเสธ’
ในทางตรงกันข้าม ถ้า ‘ถาม Yes’ แล้วผู้ตอบตอบด้วย ‘No’ ก็จะเป็นการ ‘ปฏิเสธ’ ว่า ‘ไม่เป็นจริงตามที่ถามมา แต่เป็นตรงกันข้ามกับที่ถามมานั้น’ เช่น
A: You’ve lived here, haven’t you?
คุณพำนักอาศัยอยู่ที่นี่...มิใช่รึ?
B: No, I haven’t.
เปล่า...ผมไม่ได้พำนักอาศัยอยู่ที่นี้
ถาม ‘Yes’ ตอบ ‘Yes’ เท่ากับเป็นการ ‘ยืนยัน’ ว่า ‘Yes’ เป็นจริง
1.2 ‘ถาม Yes’ ตอบ ‘No’ เท่ากับการ ‘ปฏิเสธ’
ในทางตรงกันข้าม ถ้า ‘ถาม Yes’ แล้วผู้ตอบตอบด้วย ‘No’ ก็จะเป็นการ ‘ปฏิเสธ’ ว่า ‘ไม่เป็นจริงตามที่ถามมา แต่เป็นตรงกันข้ามกับที่ถามมานั้น’ เช่น
A: You’ve lived here, haven’t you?
คุณพำนักอาศัยอยู่ที่นี่...มิใช่รึ?
B: No, I haven’t.
เปล่า...ผมไม่ได้พำนักอาศัยอยู่ที่นี้
Detective: You killed her, didn’t you?
ตำรวจนักสืบ: คุณฆ่าเจ้าหล่อน...มิใช่รึ?
Jim Petez: No, I didn’t kill her.
จิม เปเตซ: เปล่า...ผมไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน
ตำรวจนักสืบ: คุณฆ่าเจ้าหล่อน...มิใช่รึ?
Jim Petez: No, I didn’t kill her.
จิม เปเตซ: เปล่า...ผมไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน
การใช้นี้จึงมี ‘สูตร’ ว่า:
ถาม ‘Yes’ ตอบ ‘No’ เท่ากับเป็นการ ‘ปฏิเสธ’ ว่า ‘Yes’ ไม่เป็นจริง
ถาม ‘Yes’ ตอบ ‘No’ เท่ากับเป็นการ ‘ปฏิเสธ’ ว่า ‘Yes’ ไม่เป็นจริง
สรุป
Question tag ที่เป็น ‘คำถามบอกเล่า’ นั้น เราจะตอบด้วย ‘Yes’ หรือ ‘No’ ก็ได้ อัน
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การใช้ของเรา นั่นคือ ถ้าต้องตอบ ‘Yes’ เราก็ตอบ ‘Yes’ แต่ถ้าต้อง
ตอบ ‘No’ เราก็ตอบ ‘No’
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การใช้ของเรา นั่นคือ ถ้าต้องตอบ ‘Yes’ เราก็ตอบ ‘Yes’ แต่ถ้าต้อง
ตอบ ‘No’ เราก็ตอบ ‘No’
2. การใช้ Yes และ No ตอบประโยค question tag ที่เป็นคำถาม
ปฏิเสธ
ปฏิเสธ
2.1 ‘ถาม No’ ตอบ ‘No’ เท่ากับการ ‘ยืนยัน’
Question tag ที่เป็นคำถามปฏิเสธ คือ question tag ที่ผู้ถามไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตน
ถามนั้นเป็นจริง จึงต้องการการ ‘ยืนยัน’ ว่า ‘No’ จากผู้ถูกถาม ซึ่งนิยมเรียกแบบย่อๆว่า
‘ถาม No’
เมื่อเป็นดังนี้ การตอบว่า ‘No’ จึงเป็นการ ‘ยืนยัน’ ว่า ‘เป็นจริงตามที่ถามมานั้น’ เช่น
A: Your brother didn’t go there, did he?
น้องชายของคุณไม่ได้ไปที่นั่น...ใช่ไหม?
B: No, he didn’t.
ถูกต้อง...ผมยืนยันว่าน้องชายผมไม่ได้ไปที่นั่น
Question tag ที่เป็นคำถามปฏิเสธ คือ question tag ที่ผู้ถามไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตน
ถามนั้นเป็นจริง จึงต้องการการ ‘ยืนยัน’ ว่า ‘No’ จากผู้ถูกถาม ซึ่งนิยมเรียกแบบย่อๆว่า
‘ถาม No’
เมื่อเป็นดังนี้ การตอบว่า ‘No’ จึงเป็นการ ‘ยืนยัน’ ว่า ‘เป็นจริงตามที่ถามมานั้น’ เช่น
A: Your brother didn’t go there, did he?
น้องชายของคุณไม่ได้ไปที่นั่น...ใช่ไหม?
B: No, he didn’t.
ถูกต้อง...ผมยืนยันว่าน้องชายผมไม่ได้ไปที่นั่น
ประโยค No, he didn’t. ของ B เป็นการ ‘ยืนยัน’ ว่า ‘เป็นจริงตามที่ถามมานั้น
นั่นคือ น้องชายของผมไม่ได้ไปที่นั่นตามที่ถามมา’
นั่นคือ น้องชายของผมไม่ได้ไปที่นั่นตามที่ถามมา’
ลองไปดูอีกประโยคครับ
Detective: You didn’t kill her, did you?
ตำรวจนักสืบ: คุณไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน...ใช่ไหม?
Jim Petez: No, I didn’t kill her.
จิม เปเตซ: ถูกต้อง...ผมยืนยันว่าผมไม่ได้ฆ่าเธอตามที่คุณถามนั่นแหละ
ตำรวจนักสืบ: คุณไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน...ใช่ไหม?
Jim Petez: No, I didn’t kill her.
จิม เปเตซ: ถูกต้อง...ผมยืนยันว่าผมไม่ได้ฆ่าเธอตามที่คุณถามนั่นแหละ
การใช้นี้จึงมี ‘สูตร’ ว่า:
ถาม ‘No’ ตอบ ‘No’ เท่ากับเป็นการ ‘ยืนยัน’ ว่า ‘No’ เป็นจริง
ถาม ‘No’ ตอบ ‘No’ เท่ากับเป็นการ ‘ยืนยัน’ ว่า ‘No’ เป็นจริง
2.2 ‘ถาม No’ ตอบ ‘Yes’ เท่ากับการ ‘ปฏิเสธ’
ในทางตรงกันข้าม ถ้า ‘ถาม No’ แล้วผู้ตอบตอบด้วย ‘Yes’ ก็จะเป็น ‘ปฏิเสธ’ ว่า ‘ไม่
เป็นจริงตามที่ถามมา แต่เป็นตรงกันข้ามกับที่ถามมานั้น’ เช่น
A: Your brother didn’t go there, did he?
น้องชายของคุณไม่ได้ไปที่นั่น...ใช่ไหม?
B: Yes, he did.
ที่ถามมาไม่เป็นจริงครับ เพราะน้องชายผมไปที่นั่น
ในทางตรงกันข้าม ถ้า ‘ถาม No’ แล้วผู้ตอบตอบด้วย ‘Yes’ ก็จะเป็น ‘ปฏิเสธ’ ว่า ‘ไม่
เป็นจริงตามที่ถามมา แต่เป็นตรงกันข้ามกับที่ถามมานั้น’ เช่น
A: Your brother didn’t go there, did he?
น้องชายของคุณไม่ได้ไปที่นั่น...ใช่ไหม?
B: Yes, he did.
ที่ถามมาไม่เป็นจริงครับ เพราะน้องชายผมไปที่นั่น
ประโยค Yes, he did. ของ B เป็นการ ‘ปฏิเสธ’ ว่า ‘ที่ถามว่าน้องชายตนไม่ได้ไป
ที่นั่นนั้นไม่เป็นจริง ความจริงเป็นตรงกันข้าม นั่นคือ น้องชายของผมไปที่นั่น’
ที่นั่นนั้นไม่เป็นจริง ความจริงเป็นตรงกันข้าม นั่นคือ น้องชายของผมไปที่นั่น’
การใช้นี้จึงมี ‘สูตร’ ว่า:
ถาม ‘No’ ตอบ ‘Yes’ เท่ากับเป็นการ ‘ปฏิเสธ’ ว่า ‘No’ ไม่เป็นจริง
ถาม ‘No’ ตอบ ‘Yes’ เท่ากับเป็นการ ‘ปฏิเสธ’ ว่า ‘No’ ไม่เป็นจริง
สรุป
Question tag ที่เป็น ‘คำถามปฏิเสธ’ นั้น เราจะใช้ ‘No’ หรือ ‘Yes’ ตอบก็ได้ อันขึ้น
อยู่กับสถานการณ์การใช้ของเรา นั่นคือ ถ้าต้องตอบ ‘No’ เราก็ตอบ ‘No’ แต่ถ้าต้องตอบ ‘Yes’ เราก็ตอบ ‘Yes’
อยู่กับสถานการณ์การใช้ของเรา นั่นคือ ถ้าต้องตอบ ‘No’ เราก็ตอบ ‘No’ แต่ถ้าต้องตอบ ‘Yes’ เราก็ตอบ ‘Yes’
‘Yes’ มีความหมายเป็นการ ‘ปฏิเสธ’ ก็ได้
เราจะเห็นได้ว่าการใช้ ‘Yes’ ในการตอบประโยค question tag นั้น ‘Yes’ ไม่ได้มี
ความหมายเป็นการ ‘ยืนยัน’ เพียงอย่างเดียว แต่มีความหมายเป็นการ ‘ปฏิเสธ’ ก็ได้ ถ้า
question tag นั้นเป็นประโยค ‘คำถามปฏิเสธ’ ดังประโยคตัวอย่างที่แสดงให้เห็นไปแล้ว
นั่นคือ
A: Your brother didn’t go there, did he?
น้องชายของคุณไม่ได้ไปที่นั่น...ใช่ไหม?
B: Yes, he did.
ที่ถามมาไม่เป็นจริงครับ เพราะน้องชายผมไปที่นั่น
ความหมายเป็นการ ‘ยืนยัน’ เพียงอย่างเดียว แต่มีความหมายเป็นการ ‘ปฏิเสธ’ ก็ได้ ถ้า
question tag นั้นเป็นประโยค ‘คำถามปฏิเสธ’ ดังประโยคตัวอย่างที่แสดงให้เห็นไปแล้ว
นั่นคือ
A: Your brother didn’t go there, did he?
น้องชายของคุณไม่ได้ไปที่นั่น...ใช่ไหม?
B: Yes, he did.
ที่ถามมาไม่เป็นจริงครับ เพราะน้องชายผมไปที่นั่น
‘No’ มีความหมายเป็นการ ‘ยืนยัน’ ก็ได้
ส่วนการใช้ ‘No’ นั้น ‘No’ ก็ไม่ได้มีความหมายเป็นการ ‘ปฏิเสธ’ เพียงอย่างเดียว แต่มี
ความหมายเป็นการ ‘ยืนยัน’ ก็ได้ ถ้า question tag นั้นเป็นประโยค ‘คำถามปฏิเสธ’ ดัง
ประโยคตัวอย่างที่แสดงให้เห็นไปแล้ว นั่นคือ
A: Your brother didn’t go there, did he?
น้องชายของคุณไม่ได้ไปที่นั่น...ใช่ไหม?
B: No, he didn’t.
ถูกต้อง...ผมยืนยันว่าน้องชายผมไม่ได้ไปที่นั่น
ความหมายเป็นการ ‘ยืนยัน’ ก็ได้ ถ้า question tag นั้นเป็นประโยค ‘คำถามปฏิเสธ’ ดัง
ประโยคตัวอย่างที่แสดงให้เห็นไปแล้ว นั่นคือ
A: Your brother didn’t go there, did he?
น้องชายของคุณไม่ได้ไปที่นั่น...ใช่ไหม?
B: No, he didn’t.
ถูกต้อง...ผมยืนยันว่าน้องชายผมไม่ได้ไปที่นั่น
Detective: You didn’t kill her, did you?
ตำรวจนักสืบ: คุณไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน...ใช่ไหม?
Jim Petez: No, I didn’t kill her.
จิม เปเตซ: ถูกต้อง...ผมยืนยันว่าผมไม่ได้ฆ่าเธอตามที่คุณถามนั่นแหละ
ถาม ‘No’ ตอบ ‘No’ คือการตอบว่า ‘ฉันไม่ได้ทำ’
ตำรวจนักสืบ: คุณไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน...ใช่ไหม?
Jim Petez: No, I didn’t kill her.
จิม เปเตซ: ถูกต้อง...ผมยืนยันว่าผมไม่ได้ฆ่าเธอตามที่คุณถามนั่นแหละ
ถาม ‘No’ ตอบ ‘No’ คือการตอบว่า ‘ฉันไม่ได้ทำ’
เราได้ทราบแล้วว่า ประโยค question tag ที่เป็น ‘คำถามปฏิเสธ’ นั้น เราจะตอบว่า
‘No’ หรือ ‘Yes’ ก็ได้ อันขึ้นอยู่กับสถานการณ์การใช้ของเราเอง นั่นคือ ถ้าต้องตอบ ‘No’
เราก็ตอบ ‘No’ แต่ถ้าต้องตอบ ‘Yes’ เราก็ตอบ ‘Yes’
‘No’ หรือ ‘Yes’ ก็ได้ อันขึ้นอยู่กับสถานการณ์การใช้ของเราเอง นั่นคือ ถ้าต้องตอบ ‘No’
เราก็ตอบ ‘No’ แต่ถ้าต้องตอบ ‘Yes’ เราก็ตอบ ‘Yes’
แต่เนื่องจากความเคยชินในภาษาไทยที่เราสามารถใช้คำว่า ‘ใช่’ ตอบประโยคที่เป็น
คำถามปฏิเสธได้ เช่น ‘คุณไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อนใช่ไหม?’ ถ้าเราตอบว่า ‘ใช่’ ก็เป็นอันรับรู้กัน
ว่า ‘เราไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน’
คำถามปฏิเสธได้ เช่น ‘คุณไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อนใช่ไหม?’ ถ้าเราตอบว่า ‘ใช่’ ก็เป็นอันรับรู้กัน
ว่า ‘เราไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน’
เราจึงอาจนำเอาความเคยชินจากภาษาไทยนี้มาใช้กับภาษาอังกฤษ ซึ่งไม่สามารถทำได้
นั่นคือ ถ้าเราจะตอบว่า ‘เราไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน’ เราต้องตอบว่า ‘No’ เท่านั้น เพราะถ้าเรา
เผลอตอบไปว่า ‘Yes’ เข้า เราก็จะถูกจับใส่กุญแจมือทันที เนื่องจากการตอบว่า ‘Yes’
เท่ากับเรารับสารภาพว่า ‘เราทำ’ หรือ ‘เราฆ่าเจ้าหล่อน’ นั่นเอง
นั่นคือ ถ้าเราจะตอบว่า ‘เราไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน’ เราต้องตอบว่า ‘No’ เท่านั้น เพราะถ้าเรา
เผลอตอบไปว่า ‘Yes’ เข้า เราก็จะถูกจับใส่กุญแจมือทันที เนื่องจากการตอบว่า ‘Yes’
เท่ากับเรารับสารภาพว่า ‘เราทำ’ หรือ ‘เราฆ่าเจ้าหล่อน’ นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม บางครั้งเราอาจเผลอไผลตอบไปว่า ‘Yes’ ได้ เพราะแม้แต่เจ้าของภาษา
เองในการสนทนากันเร็วๆก็อาจเผลอไผลตอบออกไปว่า ‘Yes’ ได้เช่นกัน ซึ่งก็สามารถแก้
ไขคำพูดของตนเสียใหม่ได้ดังนี้
เองในการสนทนากันเร็วๆก็อาจเผลอไผลตอบออกไปว่า ‘Yes’ ได้เช่นกัน ซึ่งก็สามารถแก้
ไขคำพูดของตนเสียใหม่ได้ดังนี้
Detective: You didn’t kill her, did you?
ตำรวจนักสืบ: คุณไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน...ใช่ไหม?
Jim Petez: Yes, I mean ‘No, I didn’t kill her.’
จิม เปเตซ: ใช่...ผมฆ่า...เอ๊ยไม่ใช่...ผมพูดผิด...คุณพูดถูกแล้วผมไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน
ตำรวจนักสืบ: คุณไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน...ใช่ไหม?
Jim Petez: Yes, I mean ‘No, I didn’t kill her.’
จิม เปเตซ: ใช่...ผมฆ่า...เอ๊ยไม่ใช่...ผมพูดผิด...คุณพูดถูกแล้วผมไม่ได้ฆ่าเจ้าหล่อน
สรุป ‘สูตรอย่างง่าย’ ในการใช้ ‘Yes’ และ ‘No’ ตอบประโยค question
tag
tag
ผู้เขียนขอสรุป ‘สูตรอย่างง่าย’ ในการใช้ ‘Yes’ และ ‘No’ ตอบประโยค question
tag เพื่อให้ท่านผู้อ่านเอาไปใช้ในการตอบประโยค question tag ได้อย่างหวานหมูดัง
ต่อไปนี้
tag เพื่อให้ท่านผู้อ่านเอาไปใช้ในการตอบประโยค question tag ได้อย่างหวานหมูดัง
ต่อไปนี้
1. ถาม ‘Yes’ ตอบ ‘Yes’ เท่ากับการตอบว่า ‘ฉันทำ’
2. ถาม ‘Yes’ ตอบ ‘No’ เท่ากับการตอบว่า ‘ฉันไม่ได้ทำ’
3. ถาม ‘No’ ตอบ ‘No’ เท่ากับการตอบว่า ‘ฉันไม่ได้ทำ’
4. ถาม ‘No’ ตอบ ‘Yes’ เท่ากับการตอบว่า ‘ฉันทำ’
หรือใช้ ‘สูตรย่อ’ ซึ่งสามารถครอบคลุมได้ทั้ง 4 กรณีข้างต้น ดังนี้
การตอบ ‘Yes’ เป็นการตอบว่า ‘ฉันทำ’
การตอบ ‘No’ เป็นการตอบว่า ‘ฉันไม่ได้ทำ’
เราจะเห็นได้ว่า ถ้าเรารู้กลเม็ดการใช้ question tag แล้ว
question tag ก็เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเรา ดังนั้น ขอให้ท่านผู้อ่าน
ลงมือนำเอา question tag ไปใช้กันได้เลย ณ บัดนาว
question tag ก็เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเรา ดังนั้น ขอให้ท่านผู้อ่าน
ลงมือนำเอา question tag ไปใช้กันได้เลย ณ บัดนาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น