การเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลดี |
ในการเรียนการสอนให้ได้ผลดีนั้น จะเหมือนกันทุกภาษา คือ ไม่ว่าเราจะเรียนภาษาอะไร สิ่งที่สำคัญประการหนึ่งคือการที่ครูผู้สอนสามารถทำให้ผู้เรียนรักภาษาอังกฤษก่อน เมื่อเรารักภาษาอังกฤษแล้วก็จะเรียนด้วยความไม่เครียด และจะสามารถเรียนได้ดี
หลายคนบ่นว่าไม่ชอบ ภาษาอังกฤษ แต่อยากเก่งภาษาอังกฤษ คงจะเป็นไปได้ยากที่เราจะเก่งในสิ่งที่ ไม่รัก ดังนั้นเราควรจะหาวิธีที่ทำให้ชอบภาษาอังกฤษก่อน แล้วเราก็จะเก่งภาษาอังกฤษไปเอง ก่อนอื่น เราต้องเริ่มจากการหาวัตถุดิบที่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษเข้าไปในสมองของเราให้ได้เยอะๆก่อน หรือพยายามสร้างสภาพแวดล้อมให้เป็นภาษาอังกฤษ เช่น การฟังภาษาอังกฤษ การพูด การอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษมากๆ โดยการฟังเพลง หรือดูภาพยนตร์ที่เราชอบเป็นภาษาอังกฤษ ทำซ้ำๆหลายๆรอบ พยายามพูดตาม ให้สำเนียงเหมือนให้ได้ แล้วจึงมาหาความหมายในภายหลังว่าคำภาษาอังกฤษนั้นถ้าแปลเป็นไทยแล้ว มีความหมายอย่างไร ก็จะเป็นวิธีที่ทำให้เราเรียนภาษาอังกฤษได้ผลดีอย่างรวดเร็ว
แล้วคำว่า “ภาษาอังกฤษยาก” ก็จะไม่มีอีกต่อไป
| |
การฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่องและพูดภาษาอังกฤษให้เก่ง | |
การฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่องและพูดภาษาอังกฤษให้เก่ง
คำพูดที่ว่า "ทำอย่างไรให้ฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง" หรือ "ทำอย่างไรจึงจะพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง” และ “ทำอย่างไรจึงจะพูดภาษาอังกฤษได้เก่ง” เป็นคำพูดที่คนส่วนใหญ่พูดกัน ทั้งๆที่เรียนภาษาอังกฤษกันมาแล้วหลายปี ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนยังต้องเสาะหาที่เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมจากที่ต้องเรียนในโรงเรียน และบางคนผ่านการเรียนภาษาอังกฤษจากสถาบันสอนภาษาอังกฤษมาแล้วหลายสถาบัน แต่ก็ยังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ซักที บางคนสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้ดี เข้าใจดี หรือ บางคนทำคะแนนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษได้ดี แต่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เพราะอะไร สาเหตุที่สำคัญคือ การฟังภาษาอังกฤษให้เก่ง กล่าวคือเราต้องพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษก่อน และวิธีการฟังให้ได้ผลดีคือ เราต้องฟังประโยคซ้ำๆ หลายๆรอบ จนขึ้นใจแล้วพูดตาม ออกเสียงให้เหมือนที่สุด อาจไม่เข้าใจความหมาย หรือคำแปล ไม่เป็นไร ขอให้พูดภาษาอังกฤษออกมาให้ได้ก่อน เมื่อเราพูดประโยคภาษาอังกฤษเหล่านั้นออกมาได้แล้ว เราก็หลุดออกจากกับดักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษได้แล้ว นั่นแปลว่าเราได้เข้าสู่วงจรของการที่จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างอัตโนมัติแล้ว
หลังจากนั้นจึงค่อยมาศึกษาคำแปลของประโยคเหล่านั้น และเพิ่มประโยคภาษาอังกฤษให้มีสะสมในสมองมากขึ้น ลำดับต่อไปจึงฝึกพูดประโยคภาษาอังกฤษเหล่านั้นให้เร็วขึ้น เราก็จะสามารถพูดภาษาอังกฤษแบบอัตโนมัติจากจิตใต้สำนึกโดยไม่ติดขัดอีกแล้ว
แล้วจึงมาฝึกหรือแก้ไขคำที่เรามักจะออกเสียงภาษาอังกฤษไม่ถูกต้อง ไม่ชัด ให้พูดได้ชัดเจนขึ้น ตรงนี้อาจต้องอาศัยครูสอนภาษาอังกฤษที่เป็นเจ้าของภาษา เช่นชาวอังกฤษ หรือชาวอเมริกันมาช่วยสอน เพื่อให้เรียนได้เร็วและมั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ถ้าทำเช่นนี้ได้บ่อยๆก็จะสามารถ ฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง และพูดภาษาอังกฤษเก่ง | |
โรงเรียนสอนภาษา @Kingzton เป็น โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่นำหลักการดังกล่าวข้างต้น และวิธีการสอนที่ได้รับการยอมรับมาแล้วจาก 26 ประเทศทั่วโลก มาผสมผสานกับหลักจิตวิทยาการสอนที่เหมาะสมกับคนไทย แล้วพัฒนาออกมาเป็นหลักสูตรการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องอย่างอัตโนมัติ จากจิตใต้สำนึก
| |
วิธีฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง | |
|
ทำอย่างไรจึงจะพูดภาษาอังกฤษได้เก่ง |
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ไม่กล้าและไม่มั่นใจที่จะพูดภาษาอังกฤษ และต้องการครูที่จะสามารถสอน หรือหาวิธีที่จะเริ่มต้นพูดภาษาอังกฤษให้ได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่คนปัจจุบันกำลังประสบอยู่ แม้ว่าจะเรียนภาษาอังกฤษมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10ปี เราได้ทำการศึกษาปัญหาของคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ พบว่า การเริ่มต้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก !! หากคุณมีประสบการณ์ที่ดีในการเริ่มต้นพูดภาษาอังกฤษ คุณจะสามารถพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ และทักษะการฟังภาษาอังกฤษ ตามมาได้อย่างง่ายดาย แต่หากคุณมีประสบการณ์ในการเริ่มต้นที่เลวร้ายแล้วล่ะก้อ โอกาสที่จะพัฒนาก็ค่อนข้างจะยาก เพราะอะไร เพราะจิตใต้สำนึกที่ส่งมาเตือนคุณอยู่เสมอว่า อย่าพูดเลย เดี๋ยวฝรั่งไม่รู้เรื่องแล้วเราจะหน้าแตก , อย่าพูดเลย เดี๋ยวพูดติดๆขัดๆแล้ว อายเขา..... อะไรต่างๆนานาเหล่านี้จะเข้ามารบกวนจิตใจคุณตลอดเวลาจนคุณตัดสินใจที่จะเดิน หนีฝรั่ง หรือไม่พูดอะไรดีกว่า ซึ่งก็ยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมให้คุณไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษตลอดไป.......แล้วคุณจะเริ่มต้นพูดภาษาอังกฤษได้อย่างไร ?? หลักการในการเริ่มต้นพูดภาษาอังกฤษ นั้น จะต้องเริ่มมาจากสิ่งต่อไปนี้ 1. ความมั่นใจในการพูด หากคุณมีเด็กเล็ก..น้องๆ หรือหลานๆ ในบ้านคุณ คุณจะเห็นได้ชัดว่าแม้แต่เด็กเล็กยังต้องการความมั่นใจในการเริ่มต้นพูด เขาจะฟังคุณแม่ที่คอยกระตุ้นให้เขาพูด แต่ยังไม่ยอมพูดจนกว่าเขาจะมั่นใจว่า สิ่งที่คุณแม่สอนนั้น เขาเข้าใจได้ถูกต้อง เช่น ชี้คุณพ่อได้ถูกต้อง เมื่อคุณแม่ถามว่าคุณพ่ออยู่ไหน เป็นการทดสอบก่อนว่าสิ่งที่ได้ฟังมานั้นเข้าใจถูกหรือไม่ หากได้รับคำชมจากคุณแม่ หลังจากนั้นไม่นานคุณจะพบว่าเขาจะเริ่มเรียก “พ่อ” ตามสำเนียงของเขาได้ นั่นคือ ประสบการณ์ของเขาสอนให้เขารู้ว่า หากเขามีความมั่นใจแล้วและพูดออกมาได้ถูกต้อง เขาจะได้รับคำชม
ในทางกลับกัน หากเขาพูดผิด และผู้ใหญ่หัวเราะด้วยความเอ็นดู แต่เมื่อเด็กรู้สึกอายแล้ว สมองก็จะสั่งไม่ให้เขาพูด เขาก็จะไม่ยอมพูดออกมาจนกว่าจะมีความมั่นใจอีกครั้ง ดังนั้นคุณไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจิตใต้สำนึกของเราจึงสั่งให้เราเดินหนีฝรั่ง เมื่อเราไม่มั่นใจ เราจึงควรสร้างความมั่นใจด้วยการฝึกฝนเองหรือให้ครูที่มีประสบการณ์ในการสอน หรือมีจิตวิทยาในการสอน มาช่วยสอนภาษาอังกฤษให้
2. ความรู้ในสิ่งที่เราจะพูด สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ หากเราสามารถพูดได้ แต่ไม่มีความรู้ในสิ่งที่เขากำลังคุยกันอยู่ เราก็ใบ้ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรอ่านหนังสือที่เป็นความรู้รอบตัว หรือหากเรามีความจำเป็นที่จะต้องพูดภาษาอังกฤษเรา ก็ควรจะหาข้อมูล เกี่ยวกับสิ่งนั้น ที่เป็นภาษาอังกฤษ แล้วเตรียมดูคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้อง หรือหาครูภาษาอังกฤษมาช่วยสอนให้ เป็นการเตรียมการเพิ่มเติมความรู้ในสิ่งที่เราอาจจะต้องพูด 3. การใช้คำที่เหมาะสม หากคุณเคยพูดภาษาอังกฤษเล่นๆกับเพื่อน พูดถูกบ้างผิดบ้าง เพื่อนก็เข้าใจคุณ และคุณก็ไม่ได้ศึกษาว่าคำภาษาอังกฤษคำนี้เหมาะสมหรือไม่ หาก จะใช้กับแขกต่างประเทศหรือใช้ในที่ทำงาน ถึงเวลาที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษแบบเป็นทางการ คุณก็ใบ้ได้อีกเช่นกันว่าเราควรจะพูดประโยคนี้ดีหรือไม่ เหมาะสมหรือเปล่า เป็นภาษาที่เขาใช้ในสังคมหรือไม่ |
โรงเรียน สอนภาษา @ Kingzton ENGLISH INSTITUTE สามารถช่วยคุณได้ด้วยโปรแกรมการสอนภาษาอังกฤษ ที่เริ่มต้นจากสิ่งง่ายๆ โดย ครูจะสอบแบบช่วยประคับประคองให้คุณเริ่มต้นพูดภาษาอังกฤษให้ได้ก่อน แล้วจึงมีการสร้างความมั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษให้แก่คุณด้วยเทคนิคการสอน ที่แตกต่างจากสถาบันอื่น
หลังจากนั้น จะสอนให้คุณออกเสียงด้วยสำเนียงที่ถูกต้องชัดเจน แล้วกระบวนการสอนของสถาบันจะช่วยให้คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่าง อัตโนมัติจากจิตใต้สำนึกโดยไม่ติดขัด รวมตลอดถึงสอนการพูดแบบเป็นทางการที่คุณจะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้กับคนทั่ว ไปในทุกสถานการณ์ |
เทคนิคการจำศัพท์ |
คุณจะเห็นว่าหากใช้วิธีข้างต้น ไม่ยากเลยในการจำคำศัพท์ให้ได้แม่นยำ
ข้อสำคัญคือ ต้องจำคำศัพท์พร้อมกับประโยคที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้น คำศัพท์เดิมต้องรักษาไว้ อย่าให้ลืม และต้องเพิ่มคำศัพท์ให้ได้อย่างสม่ำเสมอ
ลองดูนะคะ แล้วคุณจะพบว่าคุณสามารถพัฒนาการจำคำศัพท์ได้เพิ่มขึ้น และแม่นยำขึ้น
|
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1.เวลาอ่านบทเรียนหรือตำรา ให้อ่านอย่างตั้งใจ แต่ทว่าเราจะไม่อ่านไปเรื่อยๆ คือเราจะหยุดอ่านเมื่อจบย่อหน้าหรือหยุดเมื่ออ่านไปได้พอสมควรแล้ว
2.จากนั้นให้ปิดหนังสือ! แล้ว ลองอธิบายสิ่งที่ตนเองได้อ่านมาให้ตัวเองฟังคือ เราสามารถอธิบายให้ตัวเองฟังด้วยภาษาสำนวนของเราเอง ฟังแล้วเข้าใจหรือเปล่า หากเราสามารถอธิบายให้ตัวเองฟังรู้เรื่อง แสดงว่าเราเข้าใจแล้ว ให้อ่านต่อไปได้ 3. หากตอนใดเราอ่านแล้ว แต่ไม่สามารถอธิบายให้ตัวเองรู้เรื่อง แสดงว่ายังไม่เข้าใจ ให้กลับไปอ่านทบทวนใหม่อีกครั้ง 4. หากเราพยายามอ่านหลายรอบแล้ว แต่ยังไม่เข้าใจจริงๆให้จดโน้ตไว้เพื่อนำไปถามอาจารย์ จากนั้นให้อ่านต่อไป 5. ข้อมูลบางอย่างในตำราจำเป็นที่จะต้องท่องจำ เช่น ตัวเลข สถิติ ชื่อสถานที่ บุคคล หรือ สูตรต่างๆ ฯลฯ ก็ควรท่องจำไว้ด้วย เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจ ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น 6. การเรียนด้วยวิธีท่องจำ โดยปราศจากความเข้าใจ เรียนไปก็ลืมไป สูญเสียเวลาเปล่าประโยชน์ 7. การเรียนที่เน้นแต่ความเข้าใจ โดยไม่ยอมท่องจำ ก็จะทำให้เราเข้าใจเรื่องต่างๆไม่ชัดเจน คลุมเครือ 8. ดังนั้นควรมีเทคนิคง่ายๆ สั้นๆ ดังต่อไปนี้ ก.ให้อ่านหนังสือ สลับกับ การอธิบายให้ตัวเองฟัง ข.ให้ท่องจำเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นต้องจำจริงๆ เช่น ตัวเลข ชื่อเฉพาะต่างๆ อ่านหนังสือด้วยวิธีการนี้จะทำให้เราเข้าใจบทเรียนได้ทั้งเล่ม ไม่ลืมเลย...... ข้อมูลจาก http://www.ptk.ac.th/?name=webboard&file=read&id=98 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น